ดูได้จากมือวางอันดับโลกของ วิลลี่ โคธนี่ ที่อยู่อันดับที่ 16 ส่วย ปานจัน นนทพัฒน์ ที่อยู่อันดับที่ 99 (ดูจากวันที่ 25 เมษายน 2005) ในการที่จะหาลายชื่อนักกีฬาไทยในมือวางอันดับโลกนั้นจะต้องหากันนานกว่าจะได้เจอ นี่คือผลของการวางแผนงานที่ผิดมาโดยตลอดของทางสมาคมฟันดาบไทย
2. สถานการณ์ภายในประเทศ
สถานการณ์ภายในประเทศนั้นไม่สามารถมองได้อย่างชัดเจน ถ้าหากว่าใครได้เข้าไปชมหน้าโฮมเพจของทางสมาคมเอเอฟเอทีเมื่ออาทิตย์ที่แล้วหรือไม่ก็เมื่อเดือนที่แล้ว จะสังเกตุเห็นได้ว่าขาดการแสดงผลงานของนักกีฬา และขาดการประเมิณค่า:
การแข่งขันภายในประเทศ (ทุกอุปกรณ์ ทุกเพศ ทุกรุ่นอายุ ในเวลาเดียวกัน) เป็นการขัดขวางการลงมติของตารางการแข่งขันในระดับสากล
ผลที่ตามมา: กีฬาฟันดาบไทยละลายในนำ้ของตัวเอง หมายความว่า นักกีฬาคนใหนที่มีรายชื่อในระดับสากลแล้วนั้น แทบจะไม่มีโอกาศที่จะได้อยู่อันดับที่สูงของประเทศตัวเองได้ ดังนั้นทำให้มือวางอันดับภายในประเทศไม่ค่อยดี(ตัวอย่าง วิลลี่ โคธนี่ ติดมือวางอันดับโลกที่ 16 แต่ในมือวางอันดับประเทศเขาอยู่ในอันดับที่ 59)
การช่วยเหลือด้านการเงิน สำหรับการส่งเสริมผลงานของพวกนักกีฬานั้นไม่ชัดเจน นักกีฬาบางคนถูกส่งให้ไปแข่งขันในทางทวีปยุโรปแต่เป็นการแข่งขันของนักกีฬามือสอง ส่วนคนอื่น อย่าง
นนทพัฒน์ ถูกห้ามไม่ให้เข้าแข่งขันในรายการกรังปรี ทั้งที่การแข่งขันนั้นเป็นการแข่งขันที่ขัดเลือกนักกีฬาสำหรับกีฬาโอลิมปิก ส่วนเงินช่วยเหลือที่ทางสมาคมการกีฬาแห่งประเทศไทย (เอสเอที) ที่มีให้นั้น นักกีฬาส่วนใหญ่ได้รับได้ไม่เต็มจำนวน (ถ้าหากว่ามีการจ่าย) ส่วนที่เหลือหายไปกับความมืด
ปัจจัยทางด้านจิตใจ บ่อยครั้งที่พวกนักกีฬาหรือไม่ก็ผู้มีส่วนร่วมดีใจกันมาก หากว่านักกีฬาคคนอื่นทำผลงานได้ไม่ดีในการแข่งขันกีฬาฟันดาบระดับสากล พวกนักกีฬาขาดความสามัครคีกัน ซึ่งตรงส่วนนี้ไม่ควรมีในเกมส์กีฬา
3. ทางออก:
จุดมุ่งหมายสูงสุดก็คือ การมองถึง หลักการของผลงาน หมายความว่า หันมาให้ความสนใจกับนักกีฬาที่มีสิทธิที่จะติดรายชื่อของมือวางอันดับต้นๆได้
แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับบางกรณี ที่มีเหตุผลพอควร และที่เหลือค่อยเป็นนักกีฬาสมัครเล่น
สิ่งที่จะต้องทำในอนาคตก็คือ:
การวาง ตารางการแข่งขัน ในแต่ละฤดู ที่ตอนสุดท้ายมีผลต่อมือวางอันดับโลก
จัด มือวางอันดับ ภายในประเทศของในแต่ละรุ่นอายุ และจะต้องมีการตรวจสอบและเปลี่ยนรายชื่อมือวางอันดับทุกครั้งหลังจากที่การแข่งขันขัดเลือกสิ้นสุดลง
หลังจบฤดูการแข่งขันแล้วจะต้องทำการแสดงถึง ผลงานของคาเดอร์ (เอ-คาเดอร์ = แชมป์โลก-นักกีฬาในประเทศ, บี-คาเดอร์ = เวิลด์คัพ-นักกีฬาในประเทศ, ซี-คาเดอร์ = ผลงานที่สำเร็จของนักกีฬารุ่นใหม่)
ทางเอเอฟเอที ต้องตั้ง จุดมุ่งหมาย ให้กับทุกรุ่นอายุ และสาขา
การช่วยเหลือด้านการเงิน จะต้องขึ้นอยู่กับผลงานเป็นส่วนใหญ่ นักกีฬารับเงินสำหรับหนึ่งปี เพื่อที่พวกเขาจะได้วางแผนสำหรับในแต่ละฤดูได้ ส่วนข้อยกเว้นก็ต้องดูว่าด้วยเหตุผลใด อย่างเช่น นักกีฬาบาดเจ็บ หรือไม่ก็เนื่องจากตารางของการแข่งขันไม่อำนวย จนไม่สามารถเข้าทำการแข่งขันของรายการในประเทศไทยได้
ทางเอเอฟเอทีจะต้องจัดวางร ะบบที่ยืดหยุ่น มากว่านี้ สำหรับทุกแผนกอุปกรณ์จะต้องมีผู้คอยรับผิดชอบ (สามารถดูตัวอย่างได้)
จะต้องทำการขัดขวางไม่ให้พวกนักกีฬาทำการเปลี่ยนไปอยู่ในสมาคมของทางมหาวิทยาลัย สมาคมตำรวจ หรือไม่ก็สมาคมทหาร ซึ่งพวกนี้จะได้รับเงินมากว่า การร่วมมือ กันของทางสมาคมและทางมหาวิทยาลัย ตำรวจ หรือ ทหาร จะทำให้การติดต่อถึงสมาคมแม่ยังคงมีอยู่
และทางด้านการเงินก็สามารถที่จะนำผู้ฝึกสอนคนเดิมมาทำการฝึกสอนต่อไปได้
ทางสมาคมเอเอฟเอที ควรที่จะพยายามนำ การแข่งขันที่สำคุญ ของทุกอุปกรณ์มาจัดที่ประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ประหยัดเงินในการเดินทางไปแข่งในต่างประเทศ และนำเงินจำนวนนี้มาพัฒนาทางด้านการแข่งขันระดับสากลแทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการแข่งขันของทางแทบเอเซียใต้จะต้องได้รับการส่งเสริมมากว่านี้
ทางเอเอฟเอทีจะต้องทำการ ฝึกอบรมคณะกรรมการ การที่ทางประเทศมีผู้ตัดสินที่ไม่ค่อยดี (ส่วนใหญ่แล้วไม่มีการสอบ) ไม่ใช่ว่าจะทำให้ภาพรวมของทางสมาคมฟันดาบตกตำ่ไปอย่างเดียว แต่รวมถึงตัวนักกีฬาเองด้วยที่จะถูกมองข้ามในการแข่งขันระดับขั้นสากล
การฝึกอบรมผู้ฝึกสอน ผู้ฝึกสอนชาวต่างประเทศไม่ใช่ทางออกที่ดี พวกนี้ส่วนใหญ่แล้วคิดถึงแต่เรื่องเงิน ไม่นึกถึงตัวนักกีฬาไทยซักเท่าไรนัก ตัวผู้ฝึกสอนนั้นจะต้องทำหน้าที่ฝึกสอนให้นักกีฬาทำการฝึกซ้อมอย่างจริงจังแต่ไม่ใช่นำหน้าที่ของพวกนักกีฬามาทำแทน ทางเอเอฟเอที จะต้องนำเรื่องของการฝึกอบรมผู้ฝึกสอนมาเป็นเรื่องต้นๆ มันจะปล่อยให้เป็นไปไม่ได้เลยว่าทั้งสมาคมมีผู้ฝึกสอนเพียงคนเดียวที่ได้ผ่านการฝึกรมมา พร้อมทั้งใบประกาศ
นักกีฬาฟันดาบและผู้ที่มีส่วนร่วมในสมาคมไม่ควรที่จะอาย และก็กล้ามากกว่านี้่ที่จะแสดงออกถึงความคิดของตัวเอง หรือไม่ก็จัดการประชุมกันอย่างเป็นทางการ
(เม่ือสามปีก่อนผมได้เสนอตัวเองแก่ทางเอเอฟเอที เพื่อที่จะคอยช่วยเหลือสมาคม เนื่องจากว่าผมมีประสบการณ์ทางด้านนี้มามากกว่า 10 ปี ตัวผมเองก็เคยพูดเรื่องนี้กับทางผลเอก ชัยสิทธิ ชินาทวา แต่ว่าทุกอย่างก็ยังคงอยู่กับที่ แต่ที่แน่ๆควรที่จะมีการจัดการประชุมถึงอนาคตของทางเอเอฟเอี ที่ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศได้)
แผนภูมิ ถึงการเปลี่ยนรูปแบบของทางเอเอฟเอที